Game Details
Title: The Elder Scrolls V: Skyrim
Genre: RPG
Developer: Bethesda Game Studios
Publisher: Bethesda Softworks
Release Date: 11 November 2011
สรุปเนื้อเรื่องคร่าวๆสำหรับภาคนี้ ทิ้งช่วงห่างจากภาค 4 ยาวนานถึง 200 ปีกันเลยทีเดียว ภาคนี้จะนำเสนอถึงความเสื่อมโทรมของจักรวรรดิ์ Tamriel ที่เริ่มต้นมาตั้งแต่เหตุการณ์ Oblivion Crisis เมื่อ 200 ปีที่แล้ว (เหตุการณ์ในภาค 4) ซึ่งตอนนี้จักรวรรดิ์ Tamriel ที่เคยยิ่งใหญ่อ่อนแอลงมาก จากเดิมในยุคของราชวงศ์ Septim ที่จักรวรรดิ์ยิ่งใหญ่เกรียงไกรมานาน อาณาเขตกว้างขวางไปทั่วทวีป มาตอนนี้กลับอยู่ในสภาพแทบพังทลาย ถูกรุกรานจากข้าศึกที่เข้มแข็ง แถมอาณาจักรบางส่วนยังประกาศแยกตัวเป็นอิสระจากจักรวรรดิ์ซะอีก ตรงนี้จะเป็นแผนที่ของจักรวรรดิ์ Tamriel โดย Skyrim ที่เป็นฉากของภาคนี้จะอยู่ทางทิศเหนือของจักรวรรดิ์
เนื้อเรื่องในเกมนี้ ปัจจุบันจักรวรรดิ์ Tamriel อ่อนแอลงมาก เริ่มต้นมาตั้งแต่ตอนที่ Martin Septim ทายาทของตระกูล Septim คนสุดท้าย เสียสละตัวเองเพื่อปกป้องโลกเอาไว้เมื่อ 200 ปีก่อน จักรวรรดิ์ก็เริ่มอ่อนแอลงเป็นต้นมา เริ่มตั้งแต่การที่ Black Marsh และ Elsweys ประกาศแยกตัวเป็นอิสระจากจักรวรรดิ์ ไปจนถึงการที่ภูเขาไฟ Red Mountain บนเกาะ Vvardenfell ใน Morrowind (ฉากของภาค 3) เกิดระเบิดขึ้น ทำให้เกาะ Vvardenfell ทั้งเกาะจมหายไปและส่วนที่เหลือของ Morrowind เสียหายอย่างหนัก ทำให้จักรวรรดิ์ต้องเสียกำลังคนในการบูรณะและการพยายามเอาเขตที่เสียไปคืนมา แต่ซ้ำร้าย พวก High Elf จาก Summerset Isle ได้ก่อตั้งกลุ่ม Aldmeri Dominion ขึ้นมาใหม่หลังจากกลุ่มนี้เคยถูกยุบไปเมื่อนานมาแล้ว เผ่าเอลฟ์ฉวยโอกาสที่จักรวรรดิ์กำลังอ่อนแอประกาศเปลี่ยนชื่อ Summerset Isle เป็น Alinor จากนั้นก็ทำสัญญาเป็นมิตรกับ Valenwood พร้อมทั้งแยกตัวทั้ง 2 พื้นที่ออกจากจักรวรรดิ์
จนเมื่อถึงปีที่ 171 ของยุคที่ 4 (30 ปีก่อนเนื้อเรื่องภาคนี้จะเริ่ม) กลุ่ม High Elf จาก Aldmeri Dominion ที่เรียกตัวเองว่า Thalmor ได้ยกพลเข้าบุกพื้นที่ Cyrodiil (ฉากของภาค 4) กับ Hammerfell พร้อมกัน หมายที่จะล้มล้างจักรวรรดิ์ให้ได้เพื่อประกาศศักดาว่าเอลฟ์เหนือกว่ามนุษย์ สงครามครั้งนั้นถูกเรียกขานต่อมาว่า มหาสงคราม (Great Wars) ซึ่งจากการบุกของ Aldmeri Dominion ทำให้ Imperial City (ใครเล่นภาค 4 คงจำกันได้นะครับ) เหมือนหลวงของจักรวรรดิ์ถูกทำลายจนได้รับความเสียหายอย่างหนัก และจักรพรรดิ์ Titus Mede ที่ 2 ต้องหนีตายไปทางเหนือ โชคดีที่ได้รับกำลังเสริมจาก Skyrim ทำให้สามารถยึด Cyrodiil คืนได้ในปีต่อมาและขับไล่ Aldmeri Dominion ออกไปจากดินแดนของจักรวรรดิ์ได้สำเร็จ
ปีที่ 175 ของยุคที่ 4 เป็นปีที่มหาสงครามสิ้นสุดลง แม้จักรวรรดิ์จะขับไล่ Aldmeri Dominion ออกไปจาก Cyrodiil ได้ แต่จักรวรรดิ์ก็ได้รับความเสียหายอย่างหนัก จนจักรพรรดิ์ Titus Mede ที่ 2 ต้องยอมทำสนธิสัญญา White-Gold กับฝ่าย Aldmeri Dominion เพื่อยอมให้พวก Thalmor สามารถเข้ามาตั้งสถานฑูตในจักรวรรดิ์ได้ พร้อมกับสั่งห้ามการบูชา 1 ในเทพทั้ง 9 คือ Talos ที่พวก Aldmeri Dominion มองว่าไม่เหมาะสมเพราะ Talos เป็นมนุษย์ที่สร้างผลงานยิ่งใหญ่จนเมื่อตายไปได้ขึ้นไปอยู่ร่วมกับเทพทั้ง 8 (ใครเล่นภาคก่อนๆมาคงคุ้นเคยกับคำว่า Nine Divines ดี) ซึ่งจักรวรรดิ์ก็ยอมรับในส่วนนี้ ยกเว้นแต่ Hammerfell ที่ไม่ยอมรับสนธิสัญญาดังกล่าวและประกาศแยกตัวเป็นอิสระจากจักรวรรดิ์ โดยในตอนหลัง Hammerfell ไปทำสนธิสัญญากับ Aldmeri Dominion อีกฉบับชื่อสนธิสัญญาแห่ง Stros M'kai ซึ่งทำให้ Aldmeri Dominion ถอนกำลังออกจาก Hammerfell ไปในที่สุด
จนกระทั่งมาถึงปีที่ 201 ของยุคที่ 4 ซึ่งครบรอบ 200 ปีจากเหตุการณ์ในภาค 4 พอดี เนื้อเรื่องในภาคนี้จะไปเจาะจงที่ Skyrim ซึ่งยังคงอยู่ในเขตปกครองของจักรวรรดิ์ Tamriel อยู่ (ตอนนี้จักรวรรดิ์มีเขตปกครองเหลือแค่ 4 เขตจากเดิม 9 เขตเท่านั้นคือ Cyrodiil, Skyrim, Morrowind และ High Rock) โดยชาว Nord ซึ่งเป็นชาวพื้นเมืองของ Skyrim นำโดย Ulfric Stormcloak ได้ประกาศสงครามกับจักรวรรดิ์เพื่อจะแยกตัวเอา Skyrim ออกเป็นอิสระจากจักรวรรดิ์ Tamriel โดย Ulfric Stormcloak ได้เริ่มก่อกบฎโดยการบุกไปลอบปลงพระชนท์กษัตริย์ของ Skyrim และปลุกระดมชาว Skyrim ให้ลุกขึ้นสู้เพื่อแยกเอา Skyrim ออกจากจักรวรรดิ์ที่กำลังอ่อนแอ โดยอ้างเรื่องที่จักรวรรดิ์ยอมรับข้อตกลงเรื่องการห้ามบูชา Talos มาเป็นสาเหตุในการปลุกระดม (Talos ในสมัยที่ยังเป็นคนมีชื่อว่า Tiber Septim เป็นทั้งผู้สถาปนาและจักรพรรดิ์องค์แรกของจักรวรรดิ์ Tamriel และยังเป็นชาว Nord อีกด้วย ทำให้ชาว Skyrim บูชา Talos เป็นทั้งเทพเจ้าและผู้กล้าที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของ Skyrim ดังนั้นการที่จักรวรรดิ์ยอมรับเงื่อนไขของ Aldmeri Dominion ทำให้ชาว Nord รู้สึกโกรธแค้นมากกว่าที่อื่นๆในจักรวรรดิ์) ฝ่ายจักรวรรดิ์จึงต้องให้กองทัพ Imperial Legion ภายใต้การนำของนายพล Tullius เพื่อปราบกบฎลงให้ได้
แต่ไม่ใช่แค่สงครามกลางเมืองอย่างเดียวที่กำลังคุกคาม Skyrim เรื่องที่เลวร้ายกว่ากลับเกิดขึ้นอีกเมื่อมังกร สิ่งมีชีวิตที่ทั้งมนุษย์และเอลฟ์ชื่อว่าสูญพันธุ์ไปจากโลกนานมากแล้วตั้งแต่ยุคโบราณ กลับปรากฎตัวขึ้นมาใน Skyrim ก่อให้เกิดความวุ่นวายยิ่งขึ้นไปอีก ตัวเอกซึ่งก็คือตัวเราซึ่งตอนหลังพบว่าตัวเองนั้นเป็น Dragonborn นักรบในตำนานของชาว Nord และมีพลังในการสังหารมังกรและดูดพลังมังกรมาเป็นของตัวเอง เลยต้องลุกขึ้นสู้เพื่อหยุดยั้งมังกรในตำนาน Alduin จอมเขมือบโลกให้ได้ แล้วก็แน่นอนว่านอกจากการไล่ล่าหยุดยั้งพวกมังกรแล้ว Dragonborn ยังต้องเข้าไปพัวพันกับเหตุการณ์ความขัดแย้งใน Skyrim อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้อีกด้วย
by : MahouKenshi (fevergame.net)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น